เมื่อพูดถึงสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมลงทุน “ทองคำ” เป็นสินทรัพย์ลำดับต้นๆ ที่ได้รับการพูดถึงอยู่เสมอ ในปี 2011 ราคาทองคำเคยปรับตัวขึ้นไปสูงกว่า $1,900 แต่ปัจจุบันราคาทองคำกลับอ่อนตัวลงมา โดยเคลื่อนไหวในระดับใกล้เคียงกับ $1,200 ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ทองคำในตอนนี้น่าลงทุนแล้วหรือยัง บทความนี้มีคำตอบค่ะ
ราคาทองคำปรับตัวลงเพราะเหตุใด
กราฟแสดงราคาทองคำ 5 ปีย้อนหลัง (ข้อมูล ณ 14 ตุลาคม 2014)
ถ้าย้อนเวลากลับไปในปี 2011 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน แล้วบอกว่า ราคาทองคำจะร่วงลงมาที่ระดับ $1,200 คงจะไม่มีใครเชื่อ เพราะในเวลานั้นหลายคนคาดหวังว่า ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่แล้วนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 มาจนถึงปีนี้ ราคาทองคำพลิกกลับมาเป็นขาลง ราคาจากที่เคยอยู่ที่ $1,900 กลับร่วงลงมาที่ $1,200 ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงมาได้แก่
1. เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ทองคำถือว่าเป็น Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำหรือมีภาวะสงครามเกิดขึ้น ความต้องการทองคำมักเพิ่มสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากภาพรวมเศรษฐกิจโลกสดใส และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างในปัจจุบัน ก็ย่อมทำให้ความต้องการทองคำลดน้อยลง
2. ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ปกติแล้ว ราคาทองคำและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีการเคลื่อนไหวที่สวนทางกัน หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง เพราะนักลงทุนจะลดการถือครองทองคำ เพื่อถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น โดยเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำ
ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
ก่อนจองที่พัก อย่าลืมเปรียบเทียบค่าที่พักของแต่ละที่ และควรเลือกที่พักที่มีบริการอาหารเช้า ซึ่งช่วยประหยัดค่าอาหารได้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาว่าที่พักอยู่ห่างจากสถานที่เที่ยวมากน้อยเพียงใด เพราะหากที่พักที่มีราคาถูกกว่า แต่ระยะทางไกลจากสถานที่เที่ยวมาก เวลาอาจหมดไปกับการเดินทาง และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่าพาหนะที่สูงขึ้น ตัวอย่างเว็บไซต์สำหรับเลือกที่พัก เช่น Agoda, Airbnb, TripAdvisor โดยเราสามารถเปรียบเทียบที่พักต่างๆ เพื่อเลือกที่พักราคาไม่แพง และถูกใจเรา ที่สำคัญอาจมีโปรโมชันส่วนลดที่พักให้ด้วย
แม้ว่าราคาทองคำปรับตัวลงมามากแล้ว แต่ราคาก็ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2015 จะขยายตัว 3.8% ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่เพียงแต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของยุโรปและญี่ปุ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นได้อีกด้วย
3. อีกหนึ่งปัจจัยที่เราไม่ควรมองข้ามคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ (Fed Fund Rate) อยู่ในระดับต่ำที่ 0-0.25% แต่จากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสว่า ในปี 2015 สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหากเกิดขึ้นจริง จะทำให้นักลงทุนมีการโยกเงินจากที่เคยลงทุนในทองคำมายังตราสารหนี้มากขึ้น เพราะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
4. สำหรับแนวโน้มทางเทคนิคนั้น ราคาทองคำยังมีทิศทางขาลง โดยมีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับ $1,180-1,200 มาที่ $1,100 และ $950
จากทั้งปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงอ่อนแอและแนวโน้มราคาทางเทคนิคที่ยังคงเป็นขาลง จึงยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนทองคำเป็นสัดส่วนที่สูง โดยสามารถลงทุนในสัดส่วนประมาณ 2% ของเงินลงทุน นอกจากนี้ ควรติดตามข่าวสารด้านการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเปลี่ยนแปลง ก็จะมีผลกับแนวโน้มราคาทองคำได้ค่ะ